เปลี่ยนภาษา

สำหรับเจ้าหน้าที่

📢 สมาพันธ์ SME ไทย ชู BCG Economy ก้าวสู่ Thailand 4.0 คาด ปี 68 โต 4.4 ล้านล้านบาท 💰
.
🔹สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ขานรับนโยบายรัฐ ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย BCG Economy เพื่อก้าวไปสู่ Thailand 4.0 ชูปรัชญารัชกาลที่ 9 สร้างความสมดุลเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมดันเศรษฐกิจเติบโตในทุกมิติอย่างยั่งยืน คาดปี 2568 ดันเศรษฐกิจ BCG มีการเติบโต 4.4 ล้านล้านบาท หรือ 24% ของ GDP ประเทศไทย
.
⭐️นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า เนื่องด้วยประเทศไทย มีความหลากหลายทางทรัพยากรชีวภาพเหมาะแก่การยกระดับมูลค่าจากวัตถุดิบทางการเกษตร และวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร มูลค่าต่ำนำมาแปรรูปโดยใช้กลไกการขับเคลื่อนด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จากบทบาท และความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางเศรษฐกิจด้วย BCG Economy ของประเทศไทย เพื่อก้าวไปสู่ Thailand 4.0 ที่เป็นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศไทยให้มั่นคงมั่งคั่ง ยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) โดยใช้กระบวนทัศน์การพัฒนาตามแนวหลักปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทางสายกลาง พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี และใช้ความรู้ควบคู่คุณธรรมสร้างความสมดุลเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลก

🤝 สมาพันธ์ SME ไทย เป็นองค์กรที่ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชน ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาชนหรือชุมชนที่มีอยู่ทั่วประเทศ และตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐ Thailand 4.0 โดยการร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SME ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากประเทศไทย เพื่อให้เกิดกระบวนการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์
และบริการด้วยนวัตกรรม ความสร้างสรรค์ และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยเชื่อมโยงองค์ความรู้ ยกระดับการบริหารการจัดการความเป็นผู้ประกอบการ เข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำช่องทางและโอกาสเข้าถึงมาตรการให้ การสนับสนุนจากภาครัฐ การรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุกิจ SME การนำนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ การสร้างแบรนด์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มและการจดจำที่ดี จับคู่เชื่อมโยงการตลาดทั้งในและต่างประเทศ

👉โดยสมาพันธ์ SME ไทย มีความร่วมมือหลากหลายโครงการกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการขับเคลื่อน BCG Economy ทั้งนี้มี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่กรมวิทยาศาสตร์บริการให้การบริการ คือ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมสมุนไพร อุตสาหกรรมเซรามิค และอุตสาหกรรมวัสดุศาสตร์ ซึ่งในปี 2565 นั้นจะยังขับเคลื่อน BCG Economy Model ให้เป็นรูปธรรม ผ่าน Quadruple Helix หรือ จตุรภาคี ที่มีรูปแบบการทำงานสอดประสานกัน 4 ภาคส่วน คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และภาคชุมชนสังคม ปัจจัยสำคัญ คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ชุมชน สังคมกับแต่ละพื้นที่อย่าง
จริงจังและจริงใจ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท) สมัยใหม่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นกลไกสำคัญ เชื่อมโยงกับ SME วิสาหกิจชุมชน ประชาสังคมแต่ละท้องถิ่นสร้าง การพัฒนาเชิงพื้นที่ในเชิงรุกร่วมกับ Digital Economy หรือ การสร้างพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship) เพิ่มมากขึ้น ให้ประชาชน มีขีดความสามารถในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อเชิงพาณิชย์ และการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

” BCG Economy มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งการส่งเสริมการจ้างงานไม่น้อยกว่า 16.5 ล้านคน ทั้งภาคการเกษตรอุตสาหกรรม และภาคอุตสาหกรรม มีมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 3.4 ล้านล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 21 ของ GDP ประเทศไทย ในปี 2563 ซึ่งนโยบายภาครัฐมีเป้าหมายที่จะให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG มีการเติบโตเพิ่มขึ้นในปี 2568 เป็น 4.4 ล้านล้านบาท หรือ 24% ของ GDP ประเทศไทย สิ่งสำคัญของการขับเคลื่อน BCG Economy คือ การให้องค์ความรู้ สร้างการรับรู้ ตระหนัก และ
กลไกการเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการ SME ภาคการเกษตรอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถเข้าถึงมาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐให้การสนับสนุนได้อย่างกว้างขวาง และดำเนินการอย่างจริงจังให้เป็นรูปธรรม ในการกระจายรายได้ ยกระดับขีดความสามารถ SME ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ”
.
ขอขอบคุณ อปท.นิวส์
https://opt-news.com/…/magazine28ce239d3f40b9db2e51e9bd…
.
📌 ติดตามข่าวสารเพื่อ SME ได้ที่
Facebook : สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย SME Thai
www.facebook.com/smethai.or.th
Line สมาพันธ์ฯ : https://lin.ee/2clvQnQ
#เพื่อนช่วยเพื่อนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
#สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย

แชร์

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Translate »